ส่งเสริม DNA ที่แข็งแรงก่อนระหว่างและหลังการสัมผัสรังสียูวี
Shade Factor ™ อัดแน่นไปด้วย ไนอาซินาไมด์ (Niacinamide) หรือที่รู้จักกันในนาม วิตามินบี 3 ในกลุ่ม Vitamin B-Complex จำนวน 500 มก. มีความโดดเด่นเรื่องประโยชน์ต่อผิวหลายประการ เช่น เสริมสร้างความแข็งแรงของผิวในระดับดีเอ็นเอ (DNA) ช่วยให้ผิวมีความแข็งแรงป้องกันรังสียูวีในระหว่างวัน ทั้งก่อนจนกระทั่งหลังการออกแดด รังสีอัลตราไวโอเลต ส่งผลต่อการผลิต ATP (อะดีโนซีนไตรฟอสเฟต) ในเซลล์ผิวหนัง ทำให้ร่างกายต้องสูญเสียเซลล์จำนวนมากเพื่อเข้าสู่กระบวนการป้องกันรังสี UV

ไนอาซินาไมด์ (Niacinamide) นอกจากช่วยทำให้เซลล์ผิวแข็งแรงป้องกันแสงรังสีอัลตราไวโอเลตแล้ว ยังมีหน้าที่สำคัญในการช่วยผลิตสาร ATP ซึ่งเป็นโมเลกุลที่ให้พลังงานแก่เซลล์ทั้งหมดในร่างกายของคุณและช่วยในเรื่องระบบการไหลเวียนภายในของร่างกาย ในการศึกษาทางคลินิกพบว่า ไนอาซินาไมด์ (Niacinamide) ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติของร่างกายที่จำเป็นในการป้องกันผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับการได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต
 

นอกจากนี้ Shade Factor ™ ยังมีสารสกัดจากเฟิร์น Polypodium leucotomos ที่มีฤทธิ์ในการปกป้องผิวมากมาย ในการทดลองทางคลินิกสารสกัดนี้ช่วยยับยั้งการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในผิวหนังที่อาจนำไปสู่ริ้วรอยก่อนวัยอันควร จากกิจกรรมกลางแจ้งและยังได้ผลอีกด้วย และช่วยเสริมให้ DNA ที่แข็งแรงก่อนระหว่างและหลังการสัมผัสรังสีอัลตราไวโอเลต
 

ช่วยเสริมสร้างกระบวนการตอบสนองของภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติต่อการสัมผัสรังสี UV
Shade Factor ™ ยังประกอบด้วย Red Orange Complex® ซึ่งเป็นสารสกัดมาตรฐานที่ได้จากส้มแดงสามสายพันธุ์ สารสกัดจากส้มแดงอุดมไปด้วยสารประกอบฟีนอลิกที่มีฤทธิ์ในการกำจัดอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพซึ่งรวมถึงแอนโธไซยานิน, ฟลาโวนอยด์ และกรดไฮดรอกซีซินนามิก (เช่นเดียวกับกรดแอสคอร์บิก) ที่ช่วยสนับสนุนการตอบสนองภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติของร่างกายและช่วยเสริมสร้างให้มีผิวแข็งแรง
 

References
1.    Carcinogenesis. 2013;34(5):1144-9.
2.    J Cosmet Dermatol. 2004;3(2):88-93.
3.    J Nucleic Acids. 2010;2010:1-13.
4.    Pathology. 2013;45(3):331-41.
5.    Photochem Photobiol. 2010;86(4):942-8.
6.    N Engl J Med. 2015;373(17):1618-26.
7.    Carcinogenesis. 2009;30(1):101-5.
8.    Arch Dermatol Res. 2015;307(3):199-209.
9.    Am J Clin Dermatol. 2015;16(2):73-9.
10.    J Clin Aesthet Dermatol. 2015;8(2):19-23.
11.    J Am Acad Dermatol. 2004;51(6):910-8.
12.    J Am Acad Dermatol. 2004;50(1):41-9.
13.    Phytother Res. 2010;24(3):414-8.
14.    J Cosmet Dermatol. 2014;13(2):151-7.
15.    Int J Cosmet Sci. 1998;20(6):331-42.
16.    Biofactors. 2007;30(2):129-38.
 

วิธีรับประทาน  
รับประทานครั้งละ 2 แคปซูล ต่อวัน หรือตามคำแนะนำของแพทย์
 

คำเตือน/ ข้อควรระวัง
*เด็ก และ สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนรับประทาน*
* ผู้ที่แพ้ส้ม ไม่ควรรับประทาน
* ผลิตภัณฑ์นี้ไม่สามารถใช้แทนครีมกันแดดได้
* ถ้าหากคุณเป็นโรคเกาต์หรือโรคตับ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน