3. ปิโตรเลี่ยมคงอยู่ในร่างกายเป็นระยะเวลายาวนาน
 
          จากงานวิจัยซึ่งตีพิมพ์ใน the Journal of Women’s Health reported "มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าไฮโดรคาร์บอนจากมิเนอรอลออยเป็นสารปนเปื้อนที่มีปริมาณมากที่สุดในร่างกายมนุษย์ซึ่งมีจำนวนประมาณ 1 กรัมต่อคน"

          โดยนักวิจัยได้เก็บตัวอย่างไขมันหน้าท้องจากหญิง 142 คนที่ได้รับการผ่าคลอดบุตร และเก็บตัวอย่างน้ำนมจาก 4 วันหลังคลอด พบว่าทั้งไขมันและน้ำนมถูกปนเปื้อนด้วยมิเนอรอลออยที่อิ่มตัวไฮโดรคาร์บอน (MOSH [mineral oil saturated hydrocarbons]) การเพิ่มขึ้นของความเข้มข้นของ MOSH ทำให้สันนิษฐานได้ว่าการสะสมของสารชนิดนี้เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลายาวนานซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าการสะสมนี้อาจเกิดจากการใช้เครื่องสำอางที่ใช้ประจำ(ครีมทามือ และกันแดด) การสะสมของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีนี้ได้รับจากการใช้เครื่องสำอาง เมื่อไรก็ตามที่ได้รับเข้าไปแล้ว มันจะคงอยู่ในร่างกาย ส่วนประกอบบางอย่างของมิเนอรอลออย(ซึ่งมีผสมอยู่ในเครื่องสำอางหลายชนิด) เป็นพิษและเมื่อเข้าสู่ระบบร่างกายนั้นร่างกายไม่สามารถขับออกไปได้.
 
  
Patsri Chuepool,M.D.
reference https://beautyeditor.ca/…/petroleum-mineral-oil-skin-produc… Womens Health (Larchmt). 2011 Nov;20(11):1713-9. doi: 10.1089/jwh.2011.2829. Epub 2011 Oct 4.Evidence for cosmetics as a source of mineral oil contamination in women

 

4. ปิโตรลาทั่มอาจทำให้ผิวหนังขาดอากาศละสะสมสารพิษ

          ปิโตรลาทัมอาจให้ผิวรู้สึกชุ่มชื่น ในขณะที่ทำให้รูขุมขนของคุณขาดอากาศ ด้วยคุณสมบัติที่กันน้ำได้และไม่ละลายในน้ำนั่นหมายความว่าปิโตรลาทัมทำหน้าที่เหมือนกำแพงกั้นเพื่อไม่ให้ความชื้นระเหยออกไปจากผิว ดังนั้นในขณะที่คุณอาจรู้สึกพึงพอใจว่าผิวชุ่มชื่น แต่แท้จริงแล้วอากาศและความชื้นไม่สามารถซึมผ่านรูขุมขนของคุณได้ และยังทำให้กระบวนการขับสารพิษตามธรรมชาติของร่างกายผ่านทางรูขุมขนและเหงื่อทำงานไม่ได้อีกด้วย 
ผลลัพธ์ของกระบวนการทั้งหมดอาจก่อให้เกิดความผิดปกติของผิวหนังหลายอย่าง เช่น รังแค สิว ผิวแห้งและระคายเคือง ยิ่งไปกว่านั้นการทำความสะอาดผลิตภัณฑ์ดังกล่าวออกจากผิวได้หมดจดนั้นทำได้ยากลำบาก การทาปิโตรลาทัมบนใบหน้าที่ไม่สะอาด อาจทำให้สิ่งสกปรกหรือฝุ่นคุ่งค้างอยู่ในรูขุมขน ก่อการอุดตันได้. 
 
 
 

 

 

 

other events you may know